Last updated: 14 พ.ค. 2568 | 7 จำนวนผู้เข้าชม |
ออริจิ้น เวอร์ติเคิล อัดโปรโมชัน “Hello ดีลเด็ด” รับส่วนลดสูงสุด 3 ล้านบาท* อยู่ฟรี! นาน 2 ปี* ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่มอีก 100,000 บาท* กับ 34 โครงการคอนโดฯ พร้อมอยู่ ตั้งแต่วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2568
นายกฤษณ์ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL ในเครือ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 2 นี้ เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว หลังจากผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวซึ่งเป็นผลกระทบระยะสั้น ประกอบกับได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการรัฐที่เข้ามาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมในระดับราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาท ได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาฯ จากภาครัฐที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในทุกด้านให้กับผู้ซื้อ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมได้ง่ายขึ้น
บริษัทฯ จึงได้จัดโปรโมชัน “Hello ดีลเด็ด” ให้ผู้ซื้อได้รับประโยชน์สูงสุดผ่าน 3 ดีลเด็ดสุดคุ้ม อาทิ รับส่วนลดสูงสุด 3,000,000 บาท*, ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 100,000 บาท* และอยู่ฟรี ! นานสูงสุด 2 ปี* ครอบคลุมทุก Segment ตั้งแต่ราคา 1.59 - 30 ล้านบาท รวม 34 โครงการคอนโดมิเนียม พร้อมอยู่ อาทิ โครงการ KnightsBridge Space Rama 4 ,โครงการ Park Origin Chula Samyan, โครงการ Park Origin Thonglor, โครงการ Park Origin Phromphong, โครงการ SO Origin Phahol 69 Station, โครงการ SO Origin Kaset Interchange, โครงการ The Origin E22 Station, โครงการ Origin Plug&Play Nonthaburi Station, โครงการ Origin Play Sri Udom Station, โครงการ Origin Plug & Play Sirindhorn Station และ โครงการ Brixton Sriracha เป็นต้น โดยโปรโมชันนี้สำหรับลูกค้าที่จอง ทำสัญญา และโอนกรรมสิทธิ์ ตั้งแต่วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2568 นี้เท่านั้น (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
ทั้งนี้ คาดว่า โปรโมชัน “Hello ดีลเด็ด” จะเป็นแรงส่งเสริมช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น หลังจากมีปัจจัยหนุนจากมาตรการภาครัฐ ทั้งมาตรการผ่อนปรนมาตเกณฑ์ LTV (Loan to value ratio ) สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งกรณี มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 2 เป็นต้นไป และ มูลค่าหลักประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 1 เป็นต้นไป รวมถึงมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองจาก 2% และ 1% เหลือเพียง 0.01% สำหรับบ้าน และคอนโดฯ ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท โดยทั้ง 2 มาตรการที่ออกมาจะช่วยลดค่าใช้จ่าย และช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต ในแบบที่คุณต้องการ ทุกการคัดสรร และการดีไซน์เราใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อให้ “คุณ” ค้นพบความสุขแท้จริง พบกับ 34 โครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่จาก ออริจิ้น ได้แล้ววันนี้! สอบถามรายละเอียด และลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร ได้ที่ www.origin.co.th หรือคลิ๊ก https://oriurl.com/2jxtz7hp โทร 1498
สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจ
1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 167 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 4/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) เป็นต้น รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นกว่า 259,072 ล้านบาท โดยกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร หรือที่อยู่อาศัยแนวราบ ดำเนินการภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ส่วนกลุ่มโครงการแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL
2.กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก
3.กลุ่มธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์
และ 4.กลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร